ทันตกรรมจัดฟัน

ทันตกรรมจัดฟัน คืออะไร ?

การจัดฟัน (Orthodontics) สามารถช่วยแก้ไขปัญหาการบดเคี้ยวที่ผิดปกติ 
แก้ปัญหาฟันเรียงไม่สวย ฟันหน้ายื่น ฟันซ้อน ฟันเก ยิ้มไม่มั่นใจ กัดฟันไม่ได้ การที่ฟันเรียงอย่างไม่เป็นระเบียบ สามารถส่งผลกระทบต่อรูปหน้า ความสะดวกในการดูแลรักษาความสะอาดฟัน และส่งผลต่อประสิทธิภาพในการบดเคี้ยว

ปัจจุบันการจัดฟันมีหลายรูปแบบ อีกทั้งเรื่องของราคาจะแตกต่างกันออกไป คนไข้สามารถเลือกชนิดเครื่องมือได้ตาม life style ของแต่ละบุคคล เช่น การจัดฟันแบบโลหะ (เลือกเปลี่ยนสียางจัดฟันได้)  จัดฟันแบบดามอน (damon) หรือจัดฟันแบบใส (Clear aligners)

7 ลักษณะฟันแบบไหนที่ควรเข้ารับการจัดฟันมีดังนี้

  1. ฟันซ้อนเก (Over Crowding)
  2. ขากรรไกรบนยื่น หรือฟันเหยิน (Overjet)
  3. ฟันห่าง หรือมีช่องว่างระหว่างฟัน (Spacing)
  4. ฟันสบลึก (Deep overbite)
  5. ฟันสบเปิดหรือการสบฟันหน้าไม่สนิท (Open bite)
  6. ฟันสบเบี้ยว (Misplaced midlin)
  7. ฟันล่างคร่อมฟันบน (Underbite)

การจัดฟันกับทันตแพทย์เฉพาะทาง จะสามารถออกแบบและวางแผนการรักษาในการปรับเปลี่ยนตำแหน่งของฟัน อีกทั้งยังช่วยแก้ไข้ปัญหาให้การบดเคี้ยวอาหารที่สมบูรณ์ขึ้น การทำความสะอาดฟันที่ง่ายขึ้น ร่วมทั้งยังช่วยเรื่องบุคลิกภาพอีกด้วย

ประเภทของการจัดฟัน

รูปแบบชนิดของการจัดฟันแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ

จัดฟันแบบเครื่องมือติดแน่น

- จัดฟันด้วยเครื่องมือโลหะ (Metal Braces)
- จัดฟันด้วยเครื่องมือยางแบบสองชั้น (AOSC)
- จัดฟันด้วยเครื่องมือแบบ Damon
- จัดฟันด้วยเครื่องมือเซรามิก (Ceramic Braces)
- การจัดฟันด้านใน (lingual braces)

จัดฟันแบบถอดได้

- จัดฟันใส (Clear aligners) แทบมองไม่เห็นอุปกรณ์

ข้อดีของการจัดฟัน

  1. ช่วยแก้ปัญหาในการบดเคี้ยว ในฟันที่สบกันได้ไม่ดีจะทำหน้าที่ในการเคี้ยวได้ไม่สมบูรณ์
  2. ช่วยสร้างความมั่นใจ สร้างบุคลิกภาพที่ดีให้แก่ผู้ทำได้ ทำให้สามารถยิ้มได้อย่างเต็มที่
  3. การเรียงตัวของฟันที่ไม่ดี อาจทำให้เกิดปัญหาการสบฟันหรืออาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บที่เหงือกได้
  4. ช่วยให้ดูแลรักษาฟันได้ง่ายขึ้น เข้าถึงจุดต่างๆได้ง่ายขึ้น จากการที่ฟันเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ ไม่ซ้อนเก ไม่มีจุดอับที่คนไข้จะเข้าทำความสะอาดไม่ถึง ทำให้ลดการมีกลิ่นปากจากการสะสมตัวของคราบหินปูนได้
  5. ช่วยลดอาการเศษอาหารติดตามซอกฟันที่เกิดจากฟันซ้อนเก หรือเรียงตัวผิดปกติ ซึ่งจะทำให้มีกลิ่นปาก หรือมีความเสี่ยงในการเกิดฟันผุมากขึ้น
  6. ช่วยทำให้ใบหน้าสวยงามขึ้น สามารถปรับเปลี่ยนรูปหน้าของเราได้ในบางกรณี

ขั้นตอนการจัดฟัน

ขั้นตอนการจัดฟันเบื้องต้นจะมีวิธีการคล้าย ๆ กันแต่จะมีข้อแตกต่างในแต่ละประเภท คือ การจัดฟันแบบเครื่องมือติดเเน่น
และการจัดฟันแบบถอดได้ (จัดฟันแบบใส) แต่การเตรียมตัวก่อนจัดฟันเหมือนกัน แบ่งเป็น 7 ขั้นตอน ดังนี้

1. ปรึกษากับทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟัน เพื่อตรวจสภาพฟัน พร้อมทั้งซักประวัติ เช่น ประวัติการแพ้ยา หรือมีโรคประจำหรือไม่ ทันตแพทย์จะให้คำแนะนำและแจ้งแผนการรักษาคร่าว ๆ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการรักษา

2. พิมพ์ปาก (ทำโมเดลฟันเฉพาะบุคคล)

3. ถ่ายภาพ x-ray หรือ สแกนช่องปาก 3 มิติ(สำหรับคนไข้จัดฟันแบบใส) ถ่ายภาพ x-ray ได้แก่ Panoramic , Lateral cephalometric เพื่อนำข้อมูลมาประกอบการวินิจฉัย ประเมินฟัน เพื่อดูการสบของฟัน กระดูกขากรรไกรบนและล่าง

4. เคลียร์ช่องปาก (เช่น ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน ผ่าฟันคุด) การเคลียร์ช่องปาก เป็นการเตรียมให้ช่องปากของเราพร้อมก่อนที่จะติดเครื่องมือจัดฟัน

5. ติดเครื่องมือจัดฟัน (ขั้นตอนนี้จะแยกออกเป็น 2 รูปแบบ) คือ

– จัดฟันแบบเครื่องมือติดแน่น ทันตแพทย์จะติดเครื่องมือจัดฟันให้ตามประเภทเครื่องมือจัดฟัน ซึ่งในช่วงแรกอาจจะรู้สึกปวดๆตึงๆบ้างเล็กน้อย แต่อาการจะค่อยๆดีขึ้นจนหายเป็นปกติภายใน 1-2 สัปดาห

– จัดฟันแบบถอดได้ หรือ จัดฟันใส ทันตแพทย์จะนัดใส่เครื่องมือจัดฟัน โดยเครื่องมือถูกออกแบบมาเฉพาะบุคคล พร้อมแนะนำวิธีการดูแลระหว่างใส่ เพราะการจัดฟันวิธีนี้สามารถถอดออกได้ระหว่างจัดฟัน

6. ปรับเครื่องมือตามแผนการรักษา ในการนัดหมายแต่ละครั้ง คนไข้ควรจะต้องมาให้ตรงตามนัด เพื่อให้การรักษาเป็นไปตามที่วางแผนไว้

7. ถอดเครื่องมือ / รับรีเทนเนอร์ เมื่อแผนการจัดฟันเป็นไปตามแผนการรักษาที่วางไว้ ทันตแพทย์ก็จะนัดถอดเครื่องมือจัดฟัน และให้ใส่รีเทนเนอร์เพื่อไม่ให้ฟันเคลื่อนตำแหน่งและสวยงามตลอดไป

กรอกข้อมูลด้านล่าง เพื่อเข้ารับบริการปรึกษากับทันตแพทย์
ทางทันตกรรมจัดฟัน ที่คลินิกทันตกรรม Melon dental clinic

(*จำเป็น)

*ไม่มีค่าใช้จ่ายในการปรึกษากับทันตแพทย์*