ฟอกสีฟัน หรือ ฟอกฟันขาว เป็นการรักษาที่ช่วยให้ฟันที่มีสีคล้ำ สีเหลือง กลับมามีสีขาวขึ้นโดยใช้น้ำยาฟอกสีฟัน ด้วยการใช้สาร (Hydrogen peroxide / Carbamide peroxide) ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์สำหรับการฟอกสีฟัน ไปทำปฎิกิริยากับสารเคลือบบนผิวฟันหรือในเนื้อฟันให้แตกตัวออก และดูขาวขึ้นจากเดิม
ปัจจัยภายนอก เช่น บุหรี่ เครื่องดื่ม สีของอาหาร
ปัจจัยภายใน เช่น การสะสมของสาร มีสีในเนื้อฟัน
ระดับความขาวของฟัน โดยทั่วไปจะขาวขึ้นประมาณ 3-5 เฉดซึ่งจะขาวขึ้นมากน้อยแค่ไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับสีเดิมของฟันและปฏิกิริยาตอบสนองของฟัน ต่อน้ำยาฟอกสีฟัน
ผลลัพธ์จากการฟอกสีฟันจะอยู่ได้ยาวนานประมาณ 6 เดือน-1 ปี ขึ้นอยู่กับระดับสีที่เป็นอยู่ของฟัน และการดูแลการรักษาสุขภาพช่องปากของแต่ละบุคคล อย่างการเลือกรับประทานอาหาร เครื่องดื่ม รวมถึงลดพฤติกรรมการสูบบุหรี่ ซึ่งจะสามารถรักษาสีฟันให้ขาวได้นานยิ่งขึ้น
1. In-office Bleaching การฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์ที่คลินิก จะใช้น้ำยาฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นสูง ร่วมกับการฉายแสง Cool Light LED กระตุ้น วิธีนี้นิยมมาก เพราะปลอดภัยทุกขั้นตอนอยู่ในความดูแลของทันตแพทย์ใช้ระยะเวลาไม่นาน และเห็นผลทันทีหลังทำ
2. Home Bleaching การฟอกสีฟันที่สามารถทำได้เองที่บ้าน แต่จะต้องมาพบทันตแพทย์ก่อนในครั้งแรกเพื่อพิมพ์ปาก ทำถาดฟอกสีฟันฟอกสีฟันเฉพาะบุคคล รับน้ำยาฟอกสีฟันและคำแนะนำในการใช้ ข้อดีคือสะดวกสบาย ราคาถูกว่าแต่ใช้ระเวลานานและต้องมีวินัยหมั่นทำบ่อยๆ จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ดี
การจะเลือกฟอกสีฟัน ว่าแบบไหนดี จะเห็นได้ว่าแต่ละวิธีก็มีความเหมาะสมกับแต่ละสาเหตุ และระดับความเข้มของสีฟันที่แตกต่างกันไป ซึ่งทันตแพทย์จะให้คำแนะนำปรึกษา เพื่อให้ได้วิธีที่ดี และเหมาะสมที่สุดกับฟัน ของแต่ละบุคคล
1.1 ก่อนฟอกสีฟัน ทันตแพทย์จะวัดระดับสีฟันก่อนการรักษา
1.2 เตรียมผิวฟัน ได้แก่ การขูดหินปูน (ในกรณีที่มีหินปูน) และขัดฟัน
1.3 ใส่ที่กั้นริมฝีปาก และใส่ที่ปกป้องเหงือก
2.1 ทันตแพทย์จะทำการทาน้ำยาฟอกสีฟัน และใช้เครื่อง Cool light LED โดยใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที
หลังจากฟอกสีฟันเรียบร้อยแล้ว ทันตแพทย์จะให้คำแนะนำในการดูแลรักษาฟัน รวมถึงเรื่องของอาหารการกินและ
เครื่องดื่ม เพื่อให้มีฟันขาวสดใสไปนานๆ
1. ควรหลีกเลี่ยงอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม เช่น กาแฟ น้ำอัดลม ชา ไวน์ เพราะจะทำให้สีฟันค่อยๆ เข้มขึ้น
หากจำเป็นต้องดื่ม ควรบ้วนปากหลังดื่มเสร็จทุกครั้ง
2. งดสูบบุหรี่ เพราะการสูบบุหรี่ทำให้เกิดคราบบนผิวฟัน หากทำความสะอาดได้ไม่ดี จะทำให้ฟันกลับมาเหลือง
เร็วกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่
3. แปรงฟัน และใช้ไหมขัดฟัน ทำความสะอาดฟันอย่างถูกต้องและเป็นประจำ จะทำให้เศษอาหารและคราบจาก
เครื่องดื่มติดบนผิวฟันได้ยาก
4. ตรวจสุขภาพฟันกับทันตแพทย์ทุกๆ 6 เดือน เพื่อสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี
ถาม : จัดฟันอยู่ฟอกสีฟันได้ไหม ?
ตอบ : ถ้าหากจัดฟันอยู่ จะยังไม่สามารถฟอกสีฟันได้ เพราะจะทำให้หน้าฟันสีไม่เท่ากัน เนื่องจากน้ำยาฟอกสีฟันจะเข้าไปไม่ถึงบริเวณ ที่มีการติดอุปกรณ์จัดฟันไว้ (Bracket) เอาไว้ แนะนำให้ฟอกสีฟันหลังจากหลังจากถอดเหล็กดัดฟันแล้ว หากมีวัสดุอุด หรือครอบฟันเดิมอยู่ น้ำยาก็จะไม่สามารถทำงานบริเวณนั้นได้
ถาม : ฟอกสีฟัน ต้องทำกี่ครั้ง ?
ตอบ : ฟอกสีฟันครั้งแรกก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของฟันที่ขาวขึ้นได้ครับ แต่ทั้งนี้ระดับของความขาวนั้นจะขึ้นอยู่กับสภาพฟันของแต่ละบุคคลด้วย
ถาม : ฟอกฟันขาว ใช้เวลานานไหม ?
ตอบ : ที่คลินิกจะใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที / ที่บ้านจะใช้เวลาฟอกประมาณครั้งละ 2 ชั่วโมง (หรือใส่ตอนนอนข้ามคืน) เป็นเวลา 2 สัปดาห์เป็นต้นไป จนกว่าจะขาวพอใจ
ถาม : ฟอกสีฟันเจ็บไหม ?
ตอบ : ฟอกสีฟันไม่เจ็บ แต่ขณะที่ฟอกสีฟันหรือหลังจากฟอกสีฟันเสร็จแล้ว อาจมีอาการเสียวฟันเกิดขึ้นได้ แต่อาการเสียวฟันจะหายได้เอง ภายใน 48 ชั่วโมง